จัดพิมพ์ครั้งแรกโดย สนพ.กอไผ่ พ.ศ.๒๕๒๖ ปกอ่อน-กระดาษธรรมดา หนา ๔๓๗ หน้า ผู้แต่ง:Carlos Castaneda ผู้แปล : พยับแดด สภาพ –พอไช้, มุมปก+สันปกถลอกเล็กน้อย กระดาษเริ่มเหลือง, ไม่มีรอยขีดเขียน *สำหรับเรื่องนี้-ปกนี้ จัดว่าหายากพอสมควรครับ เพิ่มเติม ...ในปี ๑๙๖๑ นักมานุษยวิทยาหนุ่ม คาร์ลอสคาสตาเนด้า จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียลอสแอนเจลิสได้เดินทางไปยังชุมชนของชาวอินเดียนแดงในทะเลทรายทางภาคใต้แถวมณฑลอะริโซน่าของอเมริกาและมลรัฐโซโนร่าของเม็กซิโกเพื่อหาข้อมูลสำหรับวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโทในหัวข้อที่เกี่ยวกับสมุนไพร สมุนไพรที่คาสตาเนด้าสนใจเป็นพิเศษคือปุ่มของกระบองเพชรชนิดหนึ่งมีชื่อเรียกว่าเปโยติต้นกระบองเพชรชนิดนี้เมื่อเสพเข้าไปแล้วจะเป็นยาหลอนประสาททำให้เมาและเป็นที่เชื่อกันในหมู่ของชาวอินเดียนแดงว่าขณะที่เมาเปโยตินั้นประตูแห่งการรับรู้ชนิดใหม่จะเปิดออก ทำให้ผู้เสพก้าวเข้าสู่ความหลุดพ้นดังนั้นเปโยติจึงเป็นสมุนไพรที่จะมาเปิดประตูเพื่อเข้าสู่การตรัสรู้ ชาวอินเดียนแดงพากันปกปิดสมุนไพรชนิดนี้ไว้เป็นความลับบางกลุ่มถึงกับนับถือว่าเปโยติเป็นเทพเจ้าและเรียกตัวเองว่าผู้ถือลัทธิเปโยติ คาสตาเนด้าพยายามเสาะหาผู้ที่อาจให้ข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพรชนิดนี้ในที่สุดเขาได้รับการแนะนำให้รู้จักกับบรูโจ หรือหมอผีหมอเวทมนตร์หรือผู้รู้แจ้งชาวอินเดียนแดงเผ่ายาคี(Yaqui)คนหนึ่งในตอนหลังคาสตาเนด้าเรียกชายแก่อายุประมาณ ๗๐ ปีคนนี้โดยชื่อสมมุติว่าดอนฮวน (Don Juan - Don เป็นคำนำหน้าชื่อเพื่อแสดงความเคารพนับถือในภาษาสเปน) ดอนฮวนอยู่ตัวคนเดียวไม่มีครอบครัวมีชีวิตค่อนข้างลึกลับแม้แต่กับชาวอินเดียนแดงด้วยกันเองเป็นที่ยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเกียวกับสมุนไพรและเป็นบรูโจคนหนึ่งในจำนวนไม่กี่คนในถิ่นทะเลทรายแถบนั้น เมื่อพบกับดอนฮวนเป็นครั้งแรกคาสตาเนด้าคุยเขื่องในเรื่องของสมุนไพรที่ได้เล่าเรียนมาในมหาวิทยาลัยแต่ต้องหุบปากลงโดยฉับพลันจากการมองของชายแก่คู่สนทนาการจ้องมองของดอนฮวนทำให้ความคิดอันมีเล่ห์เหลี่ยมของคาสตาเนด้าหยุดลง จากประสบการณ์ที่ประหลาดมากนี้เอง ที่ทำให้คาสตาเนด้ากลับมาดอนฮวนอีกและการมาพบในครั้งหลัง ๆ ยิ่งทำให้คาสตาเนด้าประทับใจในบุคลิกความรอบรู้และความเป็นอยู่ของดอนฮวนมากยิ่งขึ้นในที่สุดคาสตาเนด้าถึงกับยอมเป็นศิษย์ฝึกฝนเพื่อจะเป็นหมอผีภายใต้การแนะนำของดอนฮวนโดยแทบจะลืมจุดมุ่งหมายเดิมคือมาหาข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพรหมดสิ้นคาสตาเนด้าจึงเป็นคนผิวขาวคนแรกที่ได้รับการถ่ายทอดศาสตร์อันลึกลับนี้และนั่นย่อมหมายถึงการต่อสู้เพื่อเปรียบเทียบคุณค่าอารยธรรมตะวันตกกับอารยธรรมแห่งการตรัสรู้ของคนผิวเหลืองชาวอินเดียนแดงที่ถูกฝ่ายแรกเหยียบย่ำทำลายอีกด้วย… ***ขอขอบคุณข้อมูลจากร้านน้องแป้งค่ะ